摘要:本刊讯2025年9月9日上午,泰中经济协会主席宋立·普吉率领协会代表团12人抵达广州,联合广州国际交流合作中心,共同举办了一场别开生面的“广州—泰国经贸交流会”。广州市政府外办、广州市贸促会、驻广州泰国总领事馆等携手推动该经贸为主题的交流活动。
图:泰中经济协会代表团与广州市外办、广州市贸促会、驻广州总领事馆等领导及企业商家代表们集体大合影
本刊讯 2025年9月9日上午,泰中经济协会主席宋立·普吉率领协会代表团12人抵达广州,联合广州国际交流合作中心,共同举办了一场别开生面的“广州—泰国经贸交流会”。广州市政府外办、广州市贸促会、驻广州泰国总领事馆等携手推动该经贸为主题的交流活动。
泰中经济协会主席宋立·普吉、泰国驻广州总领事沈勇俊、广州市外办主任杨勇、广州市贸促会(广州国际商会)主任陈思民等出席活动,与来自广州和泰国的商协会、企业代表齐聚一堂,共同探讨广州与泰国经贸合作新机遇。
泰国营商环境友好,是当前粤港澳大湾区企业热门“出海”的目的地国之一。广州市与泰国一直保持紧密的经贸关系,双方经济互补性强、合作潜力广阔。本次活动聚焦双方营商环境、投资政策与产业优势,致力于为政府、商协会及企业搭建高效务实的对接平台,推动“引进来”与“走出去”双向合作。
图:陈思民主任致辞
交流会上,广州市贸促会(广州国际商会)主任陈思民致辞说:“今年1-7月,广州与泰国贸易总额达到30多亿美元,同比增长近50%,占同期广州与RCEP国家进出口贸易总额近20%。”陈思民主任指出,广州与泰国经贸来往密切、合作基础扎实,广州市贸促会(广州国际商会)将主动服务、整合资源,推动两地企业在更宽领域、更深层次开展务实合作。
图:沈勇俊总领事致辞
泰国驻广州总领事沈勇俊致辞说:中泰两国源远流长的友好关系,形成了两国优势凸现的经贸稳健和市场机遇,泰中经济协会不辞民间商协会之使命,担当起两国经贸的促进推动者,我们赞赏并给予大力支持。泰国从始至终都欢迎广州企业赴泰投资兴业,进一步巩固和拓展双方合作。
图:宋立·普吉主席致辞
今年是中泰建交50周年,为进一步促进广州与泰国的经贸合作,泰中经济协会主席宋立·普吉在致辞中表示,该协会将把服务带到广州,为有意赴泰经商的广州商务人士提供投资环境和商业运营等咨询和协助。
图:交流会现场
宋立·普吉表示,广州一直是做生意的最佳地点。虽出生于泰国普吉岛,普吉坦言,他和大部分的泰国华裔一样,祖先都来自中国。“我们不但是朋友,还是一家人,理应携手前行。”他还补充道,任何希望与泰国开展经贸合作的企业和个人都可以向该协会及泰国驻穗领事馆寻求帮助。
图:宋立·普吉主席接受广州媒体采访
据悉,此次泰国经贸界代表团一行12人,在泰中经济协会主席宋立·普吉及常务副主席吴小菡的带领下到访广州,除了参加此次经贸交流会,还将考察广州自来水、地铁、无人机、新能源、纺织、珠宝、酒业、直播电商等领域的相关企业和商协会,“希望在高科技产业集聚的广州发掘更多中泰科技合作与项目对接机遇。”吴小菡表示。
交流会上,多家广州代表性企业围绕泰国市场拓展之话题,展开深入探讨与实操经验分享。大旗财税出海专家杨展威以“中企出海,掘金泰国”为题,深入解析泰国营商环境与投资政策,系统介绍企业落地合规部署,助力中企高效布局泰国市场。广东琦亚展览公司总经理易强围绕“‘箱’聚泰国,‘包’揽全球”,结合亚洲时尚展成功案例,分析了泰国市场的合作与发展机遇,为企业进军东南亚市场提供了务实策略与平台支持。广东中科凯泽信息科技有限公司CEO吴军,分享了中科凯泽在智能制造、智慧安防等领域与泰方的合作成果,重点介绍湄公河——澜沧江地区的工业安全生产技术示范项目,展现了人工智能技术在中泰合作中的应用前景。广东保伦电子股份有限公司国际营销总经理朱水英,展示了智慧音视频技术在泰国的创新应用和一体化解决方案,希望以先进技术推动广州与泰国在智慧化领域的深度合作。广州市公共交通集团有限公司市场运营部主管马瑞麟,介绍了广州市公交集团已全面实现公交与出租车100%纯电动化的经验,并表达了向泰国输出绿色智慧交通整体解决方案的意愿。广东省直播电商协会数字化人才服务中心主任洪启富,聚焦电商数字化人才与产业服务,探讨中泰在直播电商领域的合作机遇与模式,希望通过人才培训和资源对接推动两国电商产业协同发展。
图:泰中经济协会在广州国际交流合作中心设立办公室
图:集体大合影
广州与泰国曼谷市及清迈府互为友好城市,广州港与曼谷的蓝策邦港互为友好港。交流会深化双方了解互信,也为两地企业搭建了长效沟通与务实合作的平台。多家企业在活动现场与泰方经贸代表团深入交流,表达了对泰国市场的浓厚兴趣,并计划近期赴泰考察,推进具体项目合作。(文/吴小菡 郭慧青)
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2568 ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน ได้นำคณะผู้แทนสมาคมจำนวน 12 คน เดินทางถึงนครกว่างโจว และร่วมกับศูนย์ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศนครกว่างโจว จัดการประชุมการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจและการค้ากว่างโจว–ประเทศไทย ขึ้นอย่างพิเศษ ในการนี้ มีสำนักงานการต่างประเทศแห่งคณะรัฐบาลประชาชน นครกว่างโจว สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครกว่างโจว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว โดยมีนายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันกิจกรรมการแลกเปลี่ยนที่มีหัวข้อเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในครั้งนี้
ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน, นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว, นายหยาง หย่ง ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศแห่งคณะรัฐบาลประชาชน นครกว่างโจว, และนายเฉิน ซือหมิน ประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครกว่างโจว (หอการค้านานาชาติกว่างโจว) ได้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ โดยมีผู้แทนสมาคมการค้าและอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้แทนภาคธุรกิจจากนครกว่างโจวและประเทศไทยมารวมตัวกัน เพื่อหารือถึงโอกาสใหม่ ๆ ในความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกว่างโจวกับประเทศไทย
ภาพ: นางเฉิน เจี๋ย ผู้อำนวยการกอง สำนักงานการต่างประเทศแห่งคณะรัฐบาลประชาชน นครกว่างโจว สนทนากับ ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน
ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อการลงทุน และเป็นหนึ่งในประเทศปลายทางยอดนิยมของผู้ประกอบการจากเขตอ่าวกว่างตง–ฮ่องกง–มาเก๊าในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง นครกว่างโจวและประเทศไทยต่างก็มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิด โดยมีลักษณะทางเศรษฐกิจที่เกื้อกูลกันและมีศักยภาพความร่วมมืออย่างกว้างขวาง กิจกรรมในครั้งนี้ได้มุ่งเน้นไปที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ นโยบายการลงทุน และจุดแข็งด้านอุตสาหกรรมของทั้งสองฝ่าย เพื่อสร้างเวทีเชื่อมโยงที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมสำหรับภาครัฐ สมาคมการค้า และภาคธุรกิจ อันจะช่วยผลักดันความร่วมมือแบบสองทาง ทั้งการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศ
ในการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ นายเฉิน ซือหมิน ประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครกว่างโจว (หอการค้านานาชาติกว่างโจว) ได้กล่าวปราศรัยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมปีนี้ มูลค่าการค้ารวมระหว่างนครกว่างโจวกับประเทศไทยสูงกว่า3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคิดเป็นเกือบร้อยละ 20 ของมูลค่าการค้าระหว่างนครกว่างโจวกับประเทศสมาชิกRCEP ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ นายเฉินยังได้เน้นย้ำว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างนครกว่างโจวกับประเทศไทยมีความใกล้ชิดและมีพื้นฐานความร่วมมือที่มั่นคง สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครกว่างโจว (หอการค้านานาชาติกว่างโจว) จะมุ่งเน้นการให้บริการเชิงรุก การบูรณาการทรัพยากร และการผลักดันให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายสามารถขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติได้ในมิติที่กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ภาพ: นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว (ขวา–กลาง) สนทนาอย่างเป็นกันเองกับ ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน
นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ได้กล่าวปราศรัยว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความยาวนานและลึกซึ้ง ได้ก่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการค้าที่โดดเด่น รวมถึงโอกาสทางการตลาดที่เอื้อต่อกัน สมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีนได้ปฏิบัติหน้าที่ของสมาคมภาคประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ในการทำหน้าที่เป็นผู้ส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งทางฝ่ายไทยขอชื่นชมและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ประเทศไทยพร้อมยินดีต้อนรับผู้ประกอบการจากนครกว่างโจวให้เข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในไทยมาโดยตลอด อันจะเป็นการเสริมสร้างและขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นและกว้างไกลยิ่งขึ้น
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างนครกว่างโจวกับประเทศไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน ได้กล่าวในคำปราศรัยว่า สมาคมฯ จะขยายการให้บริการมายังกว่างโจว เพื่อให้คำปรึกษาและการสนับสนุนด้านสภาพแวดล้อมการลงทุนและการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการจากกว่างโจวที่มีความประสงค์จะเข้าไปประกอบธุรกิจในประเทศไทย
ภาพ: นายเฉิน ซือหมิน ประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครกว่างโจว สนทนาอย่างเป็นกันเองกับ นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว
ดร.ทรงฤทธิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กว่างโจวเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจ แม้ตนเองจะเกิดที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย แต่ก็ยอมรับตามตรงว่า เช่นเดียวกับคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ บรรพบุรุษของตนมีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน เราไม่เพียงเป็นมิตร แต่ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นจึงสมควรที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน พร้อมกันนี้ยังได้เสริมว่า ไม่ว่าบริษัทหรือบุคคลใดที่ประสงค์จะร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศไทย สามารถขอรับความช่วยเหลือจากสมาคมฯ และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ คณะผู้แทนภาคเศรษฐกิจและการค้าของประเทศไทยจำนวน12 คน ซึ่งนำโดย ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน และนางวู๋ เสี่ยวหาน อุปนายกสมาคมฯ ได้เดินทางเยือนนครกว่างโจว นอกจากการเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าในครั้งนี้แล้ว คณะผู้แทนยังมีกำหนดการเยี่ยมชมและศึกษาดูงานในหลายสาขา อาทิ ระบบประปา รถไฟฟ้าใต้ดิน อากาศยานไร้คนขับ พลังงานใหม่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ อุตสาหกรรมสุรา รวมถึงอีคอมเมิร์ซถ่ายทอดสด นางวู๋ เสี่ยวหาน กล่าวว่า เราหวังว่าจะสามารถค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ในด้านความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างไทย–จีน รวมทั้งการเชื่อมโยงโครงการต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น จากการที่นครกว่างโจวเป็นศูนย์กลางการรวมตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง
ภาพ: นายสวี่ หงเฟย ประติมากรชื่อดังแห่งนครกว่างโจว (กลาง สวมเสื้อสีขาว) สนทนากับ ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน
ในการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ บริษัทชั้นนำหลายแห่งจากนครกว่างโจวได้ร่วมกันอภิปรายเชิงลึกและแบ่งปันประสบการณ์เชิงปฏิบัติในหัวข้อการขยายตลาดสู่ประเทศไทย
นายหยาง หจานเว่ย ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนภาษีและการลงทุนต่างประเทศจากบริษัท ไฮทัช คอนซัลติ้ง จำกัด ได้บรรยายในหัวข้อ บริษัทยุทธศาสตร์จีนออกสู่ตลาดโลก ขุดทองที่ประเทศไทย โดยวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและนโยบายการลงทุนของไทย พร้อมนำเสนอแนวทางการจัดตั้งธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อช่วยให้บริษัทจีนสามารถขยายธุรกิจสู่ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพ: นายหยาง หย่ง ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศ แห่งคณะรัฐบาลประชาชน นครกว่างโจว (ขวา–1) สนทนากับ นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว
นายอี้ เฉียง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กว่างตง ฉีหย่า เอ็กซ์โป จำกัด ได้กล่าวถึงหัวข้อ กล่องรวมไทย บรรจุโลก พร้อมยกตัวอย่างความสำเร็จของงานแสดงสินค้าแฟชั่นเอเชีย เพื่อวิเคราะห์โอกาสด้านความร่วมมือและการพัฒนาในตลาดไทย อันเป็นการมอบกลยุทธ์เชิงปฏิบัติและการสนับสนุนด้านแพลตฟอร์มแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายอู๋ จวิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กว่างโจว ซีเอเอส ค็อกไนเซอร์ เทคโนโลยี จำกัด ได้แบ่งปันผลสัมฤทธิ์ของการร่วมมือกับฝ่ายไทยในด้านการผลิตอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ โดยเฉพาะการดำเนินโครงการสาธิตด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยในการผลิตอุตสาหกรรมในพื้นที่แม่น้ำโขง–ล้านช้าง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนาความร่วมมือไทย–จีน
ภาพ: ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน จับมือกับ นายหว่าน จวิ้นฮว่า ประธานหอการค้านครกว่างโจว
นางจู สุ่ยอิง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ บริษัท กว่างตง เปาลุน อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด (itc) ได้นำเสนอการประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้านระบบภาพและเสียงอัจฉริยะในประเทศไทย รวมถึงโซลูชันแบบครบวงจร โดยแสดงความหวังที่จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นแรงขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงลึกด้านการพัฒนาอัจฉริยะระหว่างกว่างโจวและประเทศไทย
นายหม่า รุ่ยหลิน หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการดำเนินงาน บริษัท ขนส่งสาธารณะนครกว่างโจว กรุ๊ป จำกัด ได้บรรยายถึงประสบการณ์ของนครกว่างโจวที่ได้บรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานไฟฟ้า100% สำหรับรถโดยสารและแท็กซี่ พร้อมทั้งแสดงเจตจำนงที่จะส่งออกโซลูชันการคมนาคมสีเขียวอัจฉริยะไปยังประเทศไทย
ภาพ: ดร.ทรงฤทธิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายกสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน ถ่ายภาพร่วมกับ นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว
นายหง ฉีฝู่ ผู้อำนวยการศูนย์บริการด้านบุคลากรดิจิทัล สมาคมอีคอมเมิร์ซถ่ายทอดสด มณฑลกว่างตง ได้มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลและการให้บริการแก่อุตสาหกรรม พร้อมทั้งหารือถึงโอกาสและรูปแบบความร่วมมือในสาขาอีคอมเมิร์ซถ่ายทอดสดระหว่างไทย–จีน โดยหวังว่าจะสามารถผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของทั้งสองประเทศผ่านการฝึกอบรมบุคลากรและการเชื่อมโยงทรัพยากร
ภาพ: นางวู๋ เสี่ยวหาน อุปนายกสมาคมฯ และนายมั่ว กั๋วหง อุปนายกสมาคมฯ ถ่ายภาพร่วมกับ นายหว่าน จวิ้นฮว่า ประธานหอการค้านครกว่างโจว (ขวา–2) และนายเจียง หง เลขาธิการหอการค้านครกว่างโจว (ซ้าย–2)
ภาพ: คณะผู้แทนสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีน ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก
นครกว่างโจวได้สถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับกรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งท่าเรือกว่างโจวยังได้จับคู่เป็นท่าเรือมิตรภาพกับท่าเรือแหลมฉบังของกรุงเทพฯ การประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ได้ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย ตลอดจนเป็นเวทีที่ยั่งยืนสำหรับการสื่อสารและความร่วมมือเชิงปฏิบัติของผู้ประกอบการทั้งสองพื้นที่ ในงานยังมีหลายบริษัทได้หารือเชิงลึกกับคณะผู้แทนเศรษฐกิจและการค้าของไทย แสดงถึงความสนใจอย่างยิ่งต่อศักยภาพของตลาดไทย และมีแผนที่จะเดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ เพื่อผลักดันความร่วมมือในโครงการที่เป็นรูปธรรมต่อไป (เรียบเรียง/นางวู๋ เสี่ยวหาน, นางกัว ฮุ่ยชิง)
来源:泰之风thaiwind11